วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555
minicoper s
ไปเปิดฝากระโปรงดูสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องเครื่องยนต์กันนิด ดู ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าจะมีพิษสงมากมาย จากสเป็กเป็นเครื่อง 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1.6 ลิตร วางขวาง เพื่อใช้กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ในรุ่น Cooper S จะเสริมการอัดอากาศด้วยเทอร์โบแบบใบพัดก้นหอยคู่ หรือ Twin-scrolled ที่สามารถลดอาการรอรอบ หรือ Turbo lack ที่เป็นจุดอ่อนของเทอร์โบทั่วไป ตัวเทอร์โบติดตั้งอยู่ชิดกับด้านหน้าของห้องเครื่องยนต์ ดังนั้น ฝากระโปรงของ MINI รุ่นนี้จึงถูกทำให้โป่งสูงขึ้นไปมากกว่ารุ่นก่อน เพื่อให้มีช่องว่างมากขึ้น ขณะเดียวกันตัวอินเตอร์คูลเลอร์สำหรับระบายความร้อนออกจากอากาศที่ถูกอัด ก่อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ก็ถูกย้ายตำแหน่งลงไปอยู่ใต้กันชนหน้า
ถึงเครื่องยนต์จะเล็ก แต่ก็เล็กแบบพริกขี้หนู เครื่องยนต์ตัวนี้มีชื่อเรียกว่าเครื่อง Prince เป็นผลงานการพัฒนาร่วมกันระหว่าง BMW กับกลุ่ม PSA ผู้ผลิตเปอโยต์และซีตรองแห่งฝรั่งเศส มีทั้งขนาดความจุ 1.4 และ 1.6 ลิตร มีทั้งเครื่องหายใจธรรมดาและอัดอากาศด้วย Twin-scrolled turbo ในเครื่องทั้งหายใจธรรมดาและมีระบบอัดอากาศจะได้รับการติดตั้งระบบควบคุมการป้อนอากาศ Valvetronic ที่ช่วยให้การป้อนอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบนั้น นอกจากจะเพิ่มพลังได้มหาศาลเกินตัวคือระดับ 175 แรงม้า หรือ 128 kW และแรงบิด 240 N-m แล้ว ยังมีโหมดเสริมแรงบิด หรือ Overboost Function ที่สามารถเพิ่มแรงบิดขึ้นเป็น 260 N-m ได้ในทันทีที่กดคันเร่งมิดอีกด้วย
จุดเด่นของเครื่องยนต์ Prince อีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงเบนซินแบบไดเร็กอินเจ็กชั่น หรือฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้าไปยังห้องเผาไหม้ด้วยแรงดันสูง ทำให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างสมบูรณ์หมดจด แทบไม่มีมลพิษหลงเหลือออกมากับไอเสียอีก นอกจากนั้นยังประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม ในการทดลองจับอัตราความสิ้นเปลืองในสภาพการจราจรปกติในกรุงเทพฯ ด้วยความเร็วที่มีทั้งรถติด หรือถนนว่างก็ "อัด" ตัวเลขที่ออกมาได้เกือบ 11 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ถ้าเป็นนอกเมือง เจอทางโล่งๆ ก็ใช้ความเร็ว 120-180 เป็นพัก ๆ ก็ยังทำตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่เกิน 13 กิโลเมตรต่อลิตร ไม่น่าเชื่อว่า รถที่วิ่งได้สะใจแบบนี้จะกินน้ำมันน้อยมาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น